Home ข้อมูลรายจังหวัด กำจัดโรคไข้มาลาเรีย การวิเคราะห์ข้อมูล แผนที่โรคมาลาเรีย M-Health GF-RAI ดาวน์โหลดเอกสารมาลาเรีย Register




โรคไข้มาลาเรีย

 โรคไข้มาลาเรียเป็นโรคติดต่อที่มียุงก้นปล่องบางชนิดเป็นพาหะ เกิดจากเชื้อโปรโตซัวพลาสโมเดียม ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่อาศัยในเลือด มีวงจรของเชื้อระยะต่างๆ สลับกัน คือระยะมีเพศและไม่มีเพศ และมีวงจรชีวิตอยู่ทั้งในสัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์จำพวกยุง


ยุงก้นปล่อง

 เป็นแมลงชนิดหนึ่ง มีปากคล้ายงวงยื่นยาวออกไปข้างหน้า มักยกส่วนท้องขึ้นสูงเป็นปล่องอย่างเห็นได้ชัดในขณะดูดเลือด
 ยุงก้นปล่องอาศัยได้หลายที่ เช่น บ้านเรือน ป่า ภูเขา จึงพบมากในชนบทที่อยู่แถวชายป่า ชอบวางไข่ในแหล่งน้ำใสไหลริน แอ่งน้ำสะอาด ธารน้ำไหล หรือน้ำตก
 ยุงชนิดนี้ชอบกัดคนในเวลาพลบค่ำ ตอนดึก และเช้าตรู่


เชื้อมาลาเรีย

 เชื้อมาลาเรียในคนสำหรับประเทศไทยมีทั้งหมด 5 ชนิด ได้แก่
  1. Plasmodium falciparum (Pf)
  2. Plasmodium vivax (Pv)
  3. Plasmodium malariae (Pm)
  4. Plasmodium ovale (Po)
  5. Plasmodium knowlesi (Pk)



การติดต่อ

 สาเหตุหลักคือถูกยุงก้นปล่องที่มีเชื้อกัด ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่อาจพบได้ เช่น จากแม่ที่ป่วยเป็นไข้มาลาเรียสู่ลูกในครรภ์ การถ่ายโลหิต เป็นต้น  เมื่อยุงก้นปล่องตัวเมียกัดผู้ป่วยที่มีเชื้อไข้มาลาเรีย เชื้อจะอยู่ในตัวยุงประมาณ 10 – 12 วัน เมื่อยุงนั้นไปกัดคนอื่นต่อก็จะปล่อยเชื้อมาลาเรียจากต่อมน้ำลายเข้าสู่คน จึงทำให้คนที่ถูกยุงกัดเป็นไข้มาลาเรียต่อไป

ที่มา : หนังสือความรู้เรื่องไข้มาลาเรียสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุข, สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง



อาการ

 โดยทั่วไปอาการเริ่มแรกของไข้มาลาเรียจะเกิดขึ้นหลังจากถูกยุงก้นปล่องที่มีเชื้อกัดประมาณ 10 -14 วัน โดยจะจับไข้ไม่เป็นเวลา ไข้ต่ำๆ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัวและกล้ามเนื้อ อาจมีอาการคลื่นไส้และเบื่ออาหารได้ หลังจากนั้นจะจับไข้เป็นเวลา มีอาการหนาวๆ ร้อนๆ เหงื่อออก ผู้ป่วยจะอ่อนเพลียและเหนื่อย

ที่มา : หนังสือความรู้เรื่องไข้มาลาเรียสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุข, สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง



การตรวจรักษา

 เมื่อสงสัยเป็นไช้มาลาเรียให้เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล หรือมาลาเรียคลินิกใกล้บ้าน ซึ่งมีขั้นตอนคือการเจาะเลือดหาเชื้อ หากพบเชื้อจะได้รับยา โดยการกินยาต้องกินให้ครบตามแพทย์สั่ง และต้องมาตรวจเลือดซ้ำตามแพทย์นัด

ที่มา : หนังสือความรู้เรื่องไข้มาลาเรียสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุข, สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง


ที่มา : สไลด์นำเสนอเรื่องการตรวจวินิจฉัยและการรักษา, สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง



การป้องกัน

 เนื่องจากไม่มีวัคซีนและไม่มียากินเพื่อป้องกันการเกิดโรค ดังนั้นหากต้องเข้าป่าหรือไปในพื้นที่เสี่ยงควรป้องกันตนเองดังนี้
  1. สวมใส่เสื้อผ้าปกคลุมแขนขาให้มิดชิด
  2. ใช้ยาทากันยุงหรือจุดยากันยุง
  3. นอนในมุ้งชุบน้ำยาทุกคืน
  4. ใช้มุ้งชุบน้ำยาคลุมเปลเวลาต้องไปค้างคืนในไร่นาป่าเขา


ที่มา : หนังสือความรู้เรื่องไข้มาลาเรียสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุข, สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง



ความชุกชุมของโรค

 ส่วนมากบริเวณที่เป็นป่าเขาและมีแหล่งน้ำ ปัจจุบันเป็นโรคประจำถื่นที่เป็นปัญหาด้านสาธารณสุข ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชน

ที่มา : สไลด์นำเสนอเรื่องแผนงบประมาณและแผนการดำเนินงานกำจัดโรคไข้มาลาเรียในประเทศไทย, สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง



ชื่อเรียกอื่นๆ ของไข้มาลาเรีย

 เรียกแตกต่างกันไปตามลักษณะอาการหรือฤดูกาลเกิดโรค เช่น
  • ไข้จับสั่น (เนื่องจากเมื่อเป็นไข้ผู้ป่วยจะมีอาการหนาวสั่นเป็นพักๆ)
  • ไข้ป่า ไข้ดง (เนื่องจากชาวบ้านไปเข้าป่าแล้วกลับออกมาเป็นไข้)
  • ไข้ร้อนเย็น (เนื่องจากมีอาการหนาวๆ ร้อนๆ)
  • ไข้ดอกสัก (เนื่องจากผู้ป่วยมักเป็นไข้ในช่วงฤดูที่ดอกสักบาน)
  • ไข้ป้าง (เนื่องจากผู้ป่วยบางรายมีอาการม้ามโต)




การกำจัดโรคไข้มาลาเรีย

 กำจัดโรคไข้มาลาเรีย (Malaria Elimination) หมายถึง การดำเนินงานกำจัดการแพร่เชื้อมาลาเรียไม่ให้เกิดขึ้นในท้องที่ใดๆ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า ไม่ให้มีผู้ป่วยมาลาเรีย หรือต้องกำจัดยุงพาหะนำเชื้อมาลาเรียให้หมดไปจากท้องที่นั้น แต่เป็นการดำเนินงานให้ท้องที่ปลอดโรคไข้มาลาเรียโดยไม่มีผู้มีเชื้อมาลาเรียในกระแสเลือดที่ได้รับเชื้อมาลาเรียจากในพื้นที่นั้นๆ (Indigenous case) แต่ถ้ามีผู้ป่วยมาลาเรียเข้ามา (Imported case) จะต้องมีมาตรการค้นหา สกัดกั้นและป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่เชื้ออย่างต่อเนื่อง




ทำไมประเทศไทยจะต้องกำจัดโรคไข้มาลาเรีย?

  • ปัญหาเชื้อมาลาเรียดื้อยารักษาในประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (Epicenter of multi-drug resistant malaria)
  • ประเทศไทยมีอัตราอุบัติการณ์โรคน้อยกว่า 1 ต่อประชากรพันคน ตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งอยู่ในเกณที่องค์การอนามัยโลกได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ประเทศนั้นดำเนินนโยบายการกำจัดโรคไข้มาลาเรีย
  • มีความร่วมมือของประเทศในภูมิภาคอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนที่ร่วมแสดงจุดยืนที่ชัดเจน
  • ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะดำเนินการกำจัดโรคไข้มาลาเรียได้ ในปัจจุบันความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีในด้านการควบคุมป้องกันโรคที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ






ยุทธศาสตร์การกำจัดโรคไข้มาลาเรียประเทศไทย

พ.ศ. 2560 – 2569




ความเป็นมา

 ยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการกำจัดโรคไข้มาลาเรียประเทศไทย เป็นการดำเนินงานภายใต้คณะกรรมการอำนวยการกำจัดมาลาเรียแห่งชาติ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เลขที่ 93/2558 ลงวันที่ 26 มีนาคม 2558

 ยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการกำจัดโรคไข้มาลาเรียประเทศไทย ได้รับการพัฒนาผ่านกระบวนการวิเคราะห์สถานการณ์โรคการวิเคราะห์องค์กร จากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยบูรณาการแนวคิดและทิศทางในการจัดทำแผนให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และ 13 ด้านสังคม (การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค) กรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางขององค์การสหประชาชาติ

 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการของยุทธศาสตร์การกำจัดโรคไข้มาลาเรียประเทศไทย พ.ศ.2560 – 2569 และแผนปฏิบัติการกำจัดโรคไข้มาลาเรียประเทศไทย พ.ศ. 2560 – 2564 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2559 หน่วยงานและองค์กรในภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องสามารถใช้เป็นกรอบในการดำเนินงานให้สอดคล้องกับภารกิจของหน่วยงานและความเหมาะสมทางวิชาการ เพื่อมุ่งสู่การกำจัดโรคไข้มาลาเรียอย่างยั่งยืน

ที่มา : หนังสือยุทธศาสตร์การกำจัดโรคไข้มาลาเรียประเทศไทย พ.ศ.2560-2569, สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง



วิสัยทัศน์

 ประเทศไทยปลอดจากโรคไข้มาลาเรีย (Malaria elimination) ภายในปี พ.ศ.2567 (ค.ศ. 2024)


เป้าหมาย

ระยะกลาง : ประเทศไทยมีอำเภอ/เขตที่ไม่มีการแพร่เชื้อมาลาเรียไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของอำเภอ/เขตทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2564 (ค.ศ.2021)
ระยะยาว : ประเทศไทยปลอดจากโรคไข้มาลาเรีย (Malaria Elimination) ภายในปี พ.ศ. 2567 (ค.ศ. 2024)

ที่มา : หนังสือยุทธศาสตร์การกำจัดโรคไข้มาลาเรียประเทศไทย พ.ศ.2560-2569, สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง



วัตถุประสงค์ทั่วไป

 ในระยะปีงบประมาณ 2560-2564
  1. เพื่อลดอัตราป่วยด้วยโรคไข้มาลาเรียให้เหลือไม่เกิน 0.20 ต่อประชากรพันคนในปี พ.ศ.2564
  2. เพื่อลดอัตราตายด้วยโรคไข้มาลาเรียไม่ให้เกิน 0.01 ต่อประชากรแสนคนในปี พ.ศ.2564
  3. เพื่อกำจัดโรคไข้มาลาเรียไม่น้อยกว่า ร้อยละ 95 ของอำเภอ/เขตทั้งประเทศในปี พ.ศ. 2564 (882 อำเภอ/เขต จาก 928 อำเภอ/เขต)
  4. เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกลับมาแพร่เชื้อใหม่ในพื้นที่ที่ปลอดโรคไข้มาลาเรีย



ยุทธศาสตร์

 แบ่งเป็น 4 ยุทธศาสตร์ ดังนี้

ที่มา : หนังสือยุทธศาสตร์การกำจัดโรคไข้มาลาเรียประเทศไทย พ.ศ.2560-2569, สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง

ยุทธศาสตร์ที่ 1 เร่งรัดกำจัดการแพร่เชื้อมาลาเรียในประเทศไทย
ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม มาตรการและรูปแบบที่เหมาะสมในการกำจัดโรคไข้มาลาเรีย
ยุทธศาสตร์ที่ 3 สร้างความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่าย ระดับประเทศและระดับนานาชาติ เพื่อขับเคลื่อนงานกำจัดโรคไข้มาลาเรีย
ยุทธศาสตร์ที่ 4 ส่งเสริมให้ประชาชนมีศักยภาพในการดูแลตนเองจากโรคไข้มาลาเรีย